วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คือ “ศักดิ์ศรี” หรือเป็นแค่เพียงบทเพลง


วันนี้ไปนั่งจัดหนังสือเก่า ๆ ที่บ้าน พบบทความที่เขียนขึ้นในสมัยเด็ก ๆๆ เห็นว่าสมควรบันทึกไว้ ก็เลยคัดมาให้ดูกัน ดังนี้นะครับ
(พิมพ์ในวารสาร PHAR’ มา See U ฉบับที่ 1/2542)

                           “เขียวมะกอกไม่เคยหลอกลวงใคร                      เขียวแต่ละใบยังใสสดโศภิน
                            แล้วเติบโตแตกใบจนเต็มแผ่นดิน                    มอบชีวินเป็นผลพืชแก่ประชา...”

                     เพลงเพลงนี้คงยังก้องอยู่ในใจใครอีกหลายคน บ้างคงรู้สึกทึ่ง บ้างคงรู้สึกขนลุก และอีกหลาย ๆ คนคงรู้สึกเฉย ๆ
แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่า “ศักดิ์ศรีเภสัช” มีประวัติอย่างไร มีความสัมพันธ์กับวิชาชีพอย่างไร พี่คงขอย้อนกลับไปเมื่อสักสิบกว่าปีก่อน 
สมัยที่วิชาชีพของเราเริ่มตื่นตัว สมัยที่ยังมีสิ่งที่เรียกว่า “โควตาร้านยา”  โควตาร้านยาคือกฎเกณฑ์ที่กำหนดให้แต่ละจังหวัดมีร้านยาได้ในจำนวนจำกัด ทำให้ระบบการกระจายยาไม่สามารถเข้าถึงชุมชนได้อย่างแท้จริง ในขณะนั้นนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์ทั่วประเทศร่วมกับพี่ ๆ เภสัชกรจากหลายแหล่งสมดังเพลงที่ว่า
                                   “จะอยู่ถิ่นใดใจผูกพัน                      อันความรักนั้นไม่สร่างซา
                                    เปรียบดังสายธาราแห่งน้องพี่           .......................”
                ได้ร่วมมือกันขอให้มีการยกเลิกโควตาร้านขายยาโดยยื่นรายชื่อผู้ที่พร้อมที่จะประจำในร้านยา แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ เราถูกกล่าวหาในเชิงที่ว่า รายชื่อดังกล่าวหามีผู้ใดตั้งใจจริงไม่ มีเพียงชื่อลวงเท่านั้น !
                ข้อหาดังกล่าว เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์เป็นอย่างมาก เรา คือผู้ที่ควบคุมระบบยาของชุมชน ชีวิตผู้ป่วยขึ้นอยู่กับการใช้ยาที่ได้คุณภาพ เพราะฉะนั้นพวกเรามีศักดิ์ศรีและความซื่อสัตย์พอที่จะไม่สร้างรายชื่อลวง ๆ ขึ้น
                ก็เนื่องด้วยสาเหตุดังกล่าว บทเพลง “ศักดิ์ศรีเภสัช”  จึงก่อกำเนิดขึ้นมา ความหมายของบทเพลงยังคงแฝงไปด้วยอุดมการณ์อันตั้งมั่นที่จะร่วมมือกันพัฒนาระบบยาในประเทศได้กระจายไปทุกถิ่นและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด

                นั่นคืออดีตที่ผ่านมา แต่ในสภาพปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับวิชาชีพมากมาย ซึ่งถ้าน้อง ๆ สนใจติดตามข่าวสาร ก็คงเคยได้ยินข่าวคราวเหล่านี้มาบ้าง เช่น ร่าง พ.ร.บ. ยา ฉบับใหม่ ๆ  ปัญหาการกระจายเภสัชกรสู่ชนบท ปัญหาเภสัชกรคู่สัญญา ปัญหาของผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปัญหาทุจริตยา เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวต่างเฝ้ารอนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์มาร่วมช่วยกันแก้ไข  โดยเฉพาะพวกเรานิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอันทรงคุณค่าทั้งเกียรติภูมิและบุคลากร และขอให้น้อง ๆ ทุกคนยึดคติที่ว่า “หากเราช่วยเหลือสังคม สังคมก็จะช่วยเหลือเรา หากเรามิเคยให้อะไรแก่สังคม อย่าหวังว่าสังคมจะหันมาเหลียวแลเรา”
                                    “.................................                         ด้วยอุดมการณ์อันมั่นคง
                                จะเทิดธงวิชาชีพนี้                              เพื่อศักดิ์ศรีของเราเภสัชกร
                                ขอผองเพื่อนจงเป็นเช่นเม็ดทราย    ที่กล่นกรายมีหลายหลากทั้งนาคร
                                แล้วร่วมกันเป็นพลังสร้างเกียรติกำจร             เภสัชกรจะไว้ชื่อชั่วดินฟ้า”