วันนี้ไปนั่งจัดหนังสือเก่า ๆ ที่บ้าน
พบบทความที่เขียนขึ้นในสมัยเด็ก ๆๆ เห็นว่าสมควรบันทึกไว้ ก็เลยคัดมาให้ดูกัน
ดังนี้นะครับ
(พิมพ์ในวารสาร PHAR’ มา
See U ฉบับที่ 1/2542)
“เขียวมะกอกไม่เคยหลอกลวงใคร เขียวแต่ละใบยังใสสดโศภิน
แล้วเติบโตแตกใบจนเต็มแผ่นดิน มอบชีวินเป็นผลพืชแก่ประชา...”
เพลงเพลงนี้คงยังก้องอยู่ในใจใครอีกหลายคน
บ้างคงรู้สึกทึ่ง บ้างคงรู้สึกขนลุก และอีกหลาย ๆ คนคงรู้สึกเฉย ๆ
แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่า
“ศักดิ์ศรีเภสัช” มีประวัติอย่างไร มีความสัมพันธ์กับวิชาชีพอย่างไร
พี่คงขอย้อนกลับไปเมื่อสักสิบกว่าปีก่อน
สมัยที่วิชาชีพของเราเริ่มตื่นตัว
สมัยที่ยังมีสิ่งที่เรียกว่า “โควตาร้านยา”
โควตาร้านยาคือกฎเกณฑ์ที่กำหนดให้แต่ละจังหวัดมีร้านยาได้ในจำนวนจำกัด
ทำให้ระบบการกระจายยาไม่สามารถเข้าถึงชุมชนได้อย่างแท้จริง ในขณะนั้นนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์ทั่วประเทศร่วมกับพี่
ๆ เภสัชกรจากหลายแหล่งสมดังเพลงที่ว่า
“จะอยู่ถิ่นใดใจผูกพัน อันความรักนั้นไม่สร่างซา
เปรียบดังสายธาราแห่งน้องพี่ .......................”
ได้ร่วมมือกันขอให้มีการยกเลิกโควตาร้านขายยาโดยยื่นรายชื่อผู้ที่พร้อมที่จะประจำในร้านยา
แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ เราถูกกล่าวหาในเชิงที่ว่า
รายชื่อดังกล่าวหามีผู้ใดตั้งใจจริงไม่ มีเพียงชื่อลวงเท่านั้น !
ข้อหาดังกล่าว
เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์เป็นอย่างมาก เรา
คือผู้ที่ควบคุมระบบยาของชุมชน ชีวิตผู้ป่วยขึ้นอยู่กับการใช้ยาที่ได้คุณภาพ เพราะฉะนั้นพวกเรามีศักดิ์ศรีและความซื่อสัตย์พอที่จะไม่สร้างรายชื่อลวง
ๆ ขึ้น
ก็เนื่องด้วยสาเหตุดังกล่าว
บทเพลง “ศักดิ์ศรีเภสัช”
จึงก่อกำเนิดขึ้นมา
ความหมายของบทเพลงยังคงแฝงไปด้วยอุดมการณ์อันตั้งมั่นที่จะร่วมมือกันพัฒนาระบบยาในประเทศได้กระจายไปทุกถิ่นและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด
นั่นคืออดีตที่ผ่านมา
แต่ในสภาพปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับวิชาชีพมากมาย ซึ่งถ้าน้อง ๆ สนใจติดตามข่าวสาร
ก็คงเคยได้ยินข่าวคราวเหล่านี้มาบ้าง เช่น ร่าง พ.ร.บ. ยา ฉบับใหม่ ๆ ปัญหาการกระจายเภสัชกรสู่ชนบท
ปัญหาเภสัชกรคู่สัญญา
ปัญหาของผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปัญหาทุจริตยา
เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวต่างเฝ้ารอนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์มาร่วมช่วยกันแก้ไข โดยเฉพาะพวกเรานิสิตเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สถาบันอันทรงคุณค่าทั้งเกียรติภูมิและบุคลากร และขอให้น้อง ๆ ทุกคนยึดคติที่ว่า
“หากเราช่วยเหลือสังคม สังคมก็จะช่วยเหลือเรา หากเรามิเคยให้อะไรแก่สังคม
อย่าหวังว่าสังคมจะหันมาเหลียวแลเรา”
“................................. ด้วยอุดมการณ์อันมั่นคง
จะเทิดธงวิชาชีพนี้ เพื่อศักดิ์ศรีของเราเภสัชกร
ขอผองเพื่อนจงเป็นเช่นเม็ดทราย ที่กล่นกรายมีหลายหลากทั้งนาคร
แล้วร่วมกันเป็นพลังสร้างเกียรติกำจร เภสัชกรจะไว้ชื่อชั่วดินฟ้า”